[HoN Hero Guide] Doctor Repulsor! เร็ว! แรง! แซงทะลุนรก!

Doctor Repulsor

"แว๊นด้วยมอ'ไซค์มันเก่าไปแล้ว... มันต้องอย่างข้านี่!"

________________________________________________________________________________________

แนะนำฮีโร่

Doctor Repulsor

นี่คือฮีโร่ที่มีความคล่องตัวมากที่สุดใน HoN มันพริ้วยิ่งกว่า Magebane บรรพบุรุษของ Jumper คนโดดกระชากมิติ... ยิ่งกว่าไอ้เต่าโต้คลื่น Bubble... รวดเร็วกว่ารถแข่ง Formula One... เร็วยิ่งกว่ารถติดโคตรไนตรัสที่"ไอ้โล้นตายยาก"ขับในภาพยนตร์ซิ่งรถของ Hollywood... เร็วยิ่งกว่า-(พอได้แล้วเฮ้ย! กรูจะเล่น HoN ไม่ได้เล่น Need for Speed ไอ้บ้า!) ...โปรดฟังอีกครั้ง... ที่คือฮีโร่ที่มีความคล่องตัวมากที่สุดในเกมนี้ นั่นหมายความว่ามันจะไม่มีทางตายได้โดยเด็ดขาด!... แต่!... มีหมายเหตุเป็นตัวเล็กๆว่า "ตราบใดที่มันยังมีมานาเหลืออยู่"... และนั่นก็เป็นสิ่งที่คุณจะต้องระวังมากที่สุดเมื่อเล่นฮีโร่ตัวนี้ ความคล่องตัวแบบสุดโต่งของมันแลกมากับปริมาณการซดมานาที่มหาศาล หากคุณเล่นมันโดยไม่คำนึงถึงจุดนี้ เมื่อไหร่ที่มานาคุณหมดตัว คุณก็จะกลายเป็นครีปไปในทันที แต่หากคุณเล่นมันอย่างฉลาด มันจะเป็นฮีโร่สาย INT ที่สมบูรณ์แบบที่สุดทั้งในด้านการ gank การเป็นตัว carry(แต่เป็นแค่ semi-carry) และความคล่องตัวขั้นสุดยอดของมันก็จะทำให้คุณเป็นอมตะ!

________________________________________________________________________________________

แนวทางการเล่น

Magnetic Contraption / Opposite Charges / Electric Frenzy / Ludicrous Speed

โม้มาเยอะว่าเจ้านี้มันคล่องตัวอย่างโง้นอย่างี้ แต่นั่นมันเป็นชีวิตหลังเลเวล 6 ของ Doctor Repulsor ในช่วงแรก เป็นไปได้ให้คุณอยู่เลนกลางเพราะคุณจะมีเลเวล 6 ได้ไวขึ้นจากการอยู่คนเดียว(แต่ส่วนมากก็เป็นไปไม่ได้เพราะโดนตัวอื่นแย่งเลนทุกที) แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะอยู่เลนข้างกับเพื่อนร่วมทีมไม่ได้ เพราะสกิลทั้งหลายของคุณนั้นเป็นประโยชน์มากสำหรับการปะทะที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงต้นเกม และเนื่องจากก่อนเลเวล 6 คุณยังเป็นกระต่ายน้อยตัวนุ่มนิ่ม การฟาร์มของคุณจึงควรเป็นไปอย่างระมัดระวัง ค่อยๆเก็บครีปไปเรื่อยๆ และหากมีจังหวะก็อย่าลืมโจมตีก่อกวนศัตรูซักเล็กน้อยพอเป็นน้ำจิ้ม ในการอัพสกิลนั้นคุณสามารถอัพได้ 2 แบบหลักๆ แบบแรกคือการอัพสกิล Magnetic Contraption(สกิล 1) และสกิล Electric Frenzy(สกิล 3) สลับกันจนเต็ม และอัพสกิล Opposite Charges(สกิล 2) ไว้ 1 เลเวล การอัพแบบนี้เหมาะสำหรับเกมที่ฮีโร่ในทีมของคุณมีสกิล stun/slow/ล็อคขา อยู่มาก โดยเฉพาะถ้าคุณอยู่ร่วมเลนกับเพื่อนร่วมทีมที่มีสกิลเหล่านี้ การอัพสกิลแบบนี้จะทำให้คุณสังหารศัตรูได้ง่ายๆ เพราะการอัพสกิล 1 และ 2 เป็นสกิลหลักจะทำใ้ห้คุณสามารถสร้างความเสียหายแก่ศัตรูในเลนได้อย่างมหาศาลในการปะทะ(สกิล 1 เป็นสกิลที่ถือว่ามีความรุนแรงพอสมควรในช่วงต้นเกม และมันมี cooldown ทุกเลเวลเพียงแค่ 4 วินาทีเท่านั้น แถมยังใช้มานาไม่มากด้วย คุณจึงสามารถใช้มันได้บ่อยในการปะทะแต่ละครั้ง) และเนื่องจากสกิล 1 เป็นสกิลที่หาจังหวะใช้ได้ยาก คุณจึงจำเป็นต้องมีเพื่อนร่วมทีมหรือเพื่อนร่วมเลนที่มีสกิลหยุดเพื่อใช้เปิดการปะทะ ซึ่งจะทำให้คุณมีโอกาสในการใช้สกิล 1 ได้ และการอัพสกิล 2 ไว้ 1 เลเวลก็จะช่วยให้คุณ stun ศัตรูได้เพิ่มขึ้นอีก 1 วินาที ทุกๆครั้งที่คุณใช้สกิล(ไม่ว่าจะสกิลใดๆ) อย่าลืมโจมตีศัตรูด้วยผลจากสกิล 3 ก่อนที่จะใช้สกิลถัดไป(เพราะถ้าคุณใช้สกิลรวดเดียวแล้วโจมตี สกิล 3 ก็จะมีผลแค่ 1 การโจมตี แต่ถ้าคุณใช้สกิลใดๆหนึ่งครั้งและโจมตีหลังจากใช้สกิลนั้น สกิล 3 ก็จะแสดงผลได้มากครั้งกว่า) ส่วนการอัพสกิลอีกแบบคือการอัพสกิล 2 ไว้เป็นหลัก ตามด้วยสกิล 3 และอัพสกิล 1 ไว้ 1 เลเวล การอัพแบบนี้จะเหมาะกับเกมที่เพื่อนร่วมทีมของคุณมีสกิลหยุดน้อย ซึ่งการอัพสกิล 2 เป็นหลักจะทำให้คุณสามารถเปิดการปะทะได้จากความสามารถในการ stun ของสกิลนี้(ที่สกิลเลเวล 4 stun เป้าหมายถึง 2.5 วินาที) และถ้าคุณอยู่เลนกับเพื่อนร่วมทีมที่มี DPS สูงๆ การอัพแบบนี้ก็จะทำให้คุณฆ่าศัตรูได้อย่างง่ายๆเช่นกัน เมื่อคุณมีเลเวล 6 คุณจะได้สกิล Ludicrous Speed(สกิล ulti) มาครอบครอง(แต่อาจจะไม่ได้ถ้าคุณลืมอัพมัน) และสกิลนี้เองคือสกิลที่ผมได้พ่นน้ำลายอธิบายสรรพคุณของมันมาตั้งแต่ต้น ด้วยสกิลนี้คุณสามารถเคลื่อนที่ไปที่ไหนก็ได้บนโลกใบนี้ตราบใดที่คุณยังมีมานาอยู่ มันสามารถใช้ได้ดีทั้งในการเปิดการปะทะ การ gank การไล่ล่า และการหลบหนี แต่อย่างที่บอกไปในตอนต้น สกิลนี้เป็นสกิลที่จะสูบมานาออกจากหลอดของคุณได้อย่างรวดเร็วถ้าคุณใช้มันเคลื่อนที่ด้วยระยะทางที่ไกลเกินความจำเป็น(เมื่อใช้สกิลนี้ คุณจะเสียมานา 10+1% ของมานาสูงสุดต่อระยะทาง 100 หน่วยที่เคลื่อนที่ไป) ดังนั้นถ้าคุณยังมีมานาสูงสุด(Max Mana)และอัตราการฟื้นฟูมานา(Mana Regen)ยังไม่มาก อย่าเพิ่งใช้มันเคลื่อนที่ไปไกลๆ ในช่วงกลางเกมคุณจะเป็นฮีโร่ที่ฟาร์มได้ค่อนข้างไว(ทั้งฟาร์มป่าและฟาร์มเลน)จากสกิล 1 และสกิล 3 ในระหว่างการฟาร์มก็คอยจับตาดูเลนต่างๆและหาโอกาสไป gank หรือไปร่วมการปะทะกับทีมด้วย ในช่วงท้ายเกมบทบาทของคุณจะขึ้นอยู่กับไอเทมที่คุณออกมาตั้งแต่ตอนแรก คุณอาจจะกลายเป็นตัว carry หรือ nuker หรือแม้กระทั่ง supporter ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับตัวคุณเอง(และขึ้นอยู่กับฮีโร่ในทีมของคุณด้วย) แต่ที่แน่ๆไม่ว่าคุณจะเล่นในบทบาทไหน คุณก็สามาระเป็นอมตะได้ด้วยสกิล ulti ของคุณ!(อมตะยังไงไปอ่านในหัวข้อ Tips นะจ๊ะ)

________________________________________________________________________________________

แนวทางการออกไอเทม


จะเห็นได้ว่าฮีโร่ตัวนี้เน้นการใช้สกิลเป็นหลัก โดยเฉพาะสกิล ulti ของมันที่กินมานาเป็นบ้าเป็นหลัง การออกไอเทมเสริม Max Mana และ Mana Regen จึงจะทำให้คุณคล่องตัวยิ่งขึ้นจากการใช้สกิล ulti ได้บ่อยขึ้น และเนื่องจากมันเป็นฮีโร่ที่พริ้วมาก หากคุณลองออกไอเทมให้มันเป็นตัว carry ดูคุณจะพบว่ามันเป็นตัว carry ที่ทั้งน่ารำคาญและทั้งแข็งแกร่งในคราวเดียวกัน


**นี่เป็น"แนวทาง"เท่านั้น**

- คุณอาจจะออก Steamboots(INT) เพื่อเพิ่มมานาสูงสุด และยังทำให้คุณโจมตีได้เร็วขึ้น
- คุณอาจจะออก Harkon's Blade, Hellflower, Frostwolf's Skull เพื่อกลายเป็นตัว carry สุดโหด
- คุณอาจจะออก Spellshards, Codex เพื่อกลายเป็น nuker สุดบ้าคลั่ง
- คุณอาจจะออก Kuldra's Sheepstick, Nome's Wisdom, Stormspirit, Frostfield Plate เพื่อกลายเป็น supporter สุด...(สุดไรดีนึกไม่ออก ไปต่อเอาเอง)
- คุณอาจจะออก  Sacrificial Stone, Null Stone เพื่อเพิ่มอัตราการฟื้นฟูมานาของคุณ
- คุณอาจจะออกอะไรก็ได้ เพราะทั้งหมดนั้น ขึ้นอยู่กับคุณ!

________________________________________________________________________________________

Tips

- เนื่องจากสกิล Magnetic Contraption(สกิล 1) เป็นสกิลที่จะแสดงผลเมื่อศัตรูอยู่ในรัศมี 235 ของสกิล ซึ่งทำให้มันใช้งานได้ยากมากหากเป้าหมายสามารถเคลื่อนที่ได้เต็มความเร็วและคุณอยู่ไกลจากเป้าหมาย ให้คุณหาจังหวะที่ศัตรูถูก stun/slow/ล็อคขา (จากสกิลของเพื่อนร่วมทีมหรือสกิล Opposite Charges(สกิล 2) ของคุณเอง) แล้ววิ่ง(หรือใช้สกิล Ludicrous Speed(สกิล ulti))เข้าไปดักหน้าเป้าหมาย แล้วจึงค่อยใช้สกิล 1 เมื่อคุณอยู่ในระยะประชิดตัวกับเป้าหมาย คุณจะใช้สกิล 1 ได้ง่ายขึ้นด้วยการวิ่งนำเป้าหมายและใช้สกิล 1 ควบคู่ไปกับการโจมตีที่มีผลจากสกิล Electric Frenzy(สกิล 3) ติดอยู่ ซึ่งผลจากการ slow ของสกิล 3 ก็จะทำให้คุณวิ่งนำเป้าหมายได้ไม่ยากเช่นกัน

- แม้สกิล 2 จะมีประโยชน์ที่สามารถ stun ศัตรูได้ แต่มันก็จะ slow ตัวคุณเองถึง 50% เป็นเวลา 3 วินาทีในทันทีที่คุณใช้สกิล ดังนั้นถ้าสกิล 2 ของคุณยังมีเลเวลไม่มากและคุณยังไม่มีสกิล ulti ให้ใช้คุณมันเฉพาะในการปะทะ อย่าใช้มันเพื่อเอาตัวรอดเด็ดขาด เพราะมันจะ slow ตัวคุณทำให้โอกาสรอดของคุณน้อยลงไปอีก(สมมติคุณมีสกิล 2 เลเวล 1 ซึ่ง stun เป้าหมายได้เพียง 1 วินาที และแลกกับการที่คุณถูก slow 50% ถึง 3 วินาที คุณคิดว่าคุณจะรอดมั้ยล่ะ?)

- จากข้อข้างบน ถ้าคุณคิดจะเอาตัวรอดและคุณยังมีมานาเหลืออยู่ และศัตรูที่ไล่ล่าคุณไม่มีสกิลหยุดหรือสกิลที่จะเด็ดหัวคุณได้ในทันที ให้คุณใช้สกิล 1 ในขณะที่วิ่งหนี ซึ่งจะทำให้ศัตรูที่ไล่ล่านั้นโดนความเสียหายจากสกิล และเนื่องจากสกิล 1 มี cooldown เพียง 4 วินาที ตราบใดที่คุณยังมีมานาและมันยังไล่ตามคุณอยู่ ศัตรูก็จะโดนความเสียหายไปเรื่อยๆ จนในที่สุดคุณอาจจะเป็นฝ่ายพลิกกลับไปฆ่าศัตรูแทนก็ได้ แต่ถ้าศัตรูที่ไล่ล่าคุณมีสกิลหยุดหรือสกิลที่รุนแรง แนะนำให้คุณใช้สกิล ulti พุ่งหายสาบสูญกลับบ้านไปเลย

ตามมาอีกก็โดนอีกเอ้า!

- หากคุณมีสกิล 2 เลเวลสูงๆ คุณสามารถใช้มันคอมโบกับสกิล 1 ได้ด้วยการใช้สกิล 2 ดูดศัตรูมาใกล้ตัว โจมตี 1 ครั้ง ใช้สกิล 1 และโจมตีอีก 1 ครั้ง

- ก่อนที่คุณจะใช้สกิล ulti ให้คุณคิดให้ดีถึงความคุ้มค่าของมานาที่เสียไป(อย่างที่บอก มันเป็นสกิลที่สูบมานาอย่างมหาศาล แค่ระยะทาง 100 หน่วย คุณก็จะเสียมานาไป 10+1% ของมานาทั้งหมดแล้ว สมมติว่าคุณมีมานาสูงสุดเท่ากับ 1000 หน่วย ก็เท่ากับว่าคุณต้องเสียมานาไปเท่ากับ 110 หน่วย ซึ่งนั่นเท่ากับการใช้สกิล 1 1 ครั้งเลยทีเดียว) เพราะถ้าคุณใช้สกิลนี้ไปแล้ว คุณจะไม่สามารถหยุดมันกลางคันได้(ปุ่ม S ก็หยุดมันไม่ได้) หากคุณใช้มันด้วยระยะทางที่ไกลเกินความจำเป็น คุณก็จะมีมานาไว้เหลือพอจะทำสิ่งต่างๆได้น้อยลง(และนั่นอาจทำให้คุณมีมานาไม่พอที่จะใช้สกิลนี้เพื่อหนีเอาตัวรอดได้)

- ด้วยสกิล ulti จะทำให้ศัตรูที่ไม่มีสกิลย้ายตำแหน่งหรือสกิลหายตัวเข้าประชิดตัวคุณได้ยากมาก เพียงแค่คุณใช้สกิล 1 และโจมตี(ด้วยผลของสกิล 3) ใช้สกิล 2 และโจมตี ถ้าศัตรูเข้าใกล้มากก็ทิ้งระยะห่างด้วยสกิล ulti แล้วใช้สกิล 1 และโจมตีใหม่ วนแบบนี้ไปเรื่อยๆ ศัตรูก็จะเข้าประชิดตัวคุณไม่ได้เลย(ตราบใดที่คุณยังมีมานาอยู่)

- ในขณะที่คุณกำลังเคลื่อนที่ด้วยสกิล ulti ตัวคุณจะอยู่ในสถานะ invulnerable (ไม่ได้รับความเสียหายและผลกระทบต่างๆที่เกิดจากการโจมตีหรือสกิล หรือก็คือเป็น"อมตะ") ด้วยความสามารถตรงนี้ทำให้คุณสามารถใช้สกิลนี้เพื่อหลบสกิลของศัตรูได้เกือบทุกประเภทหากคุณรู้ตัวว่ากำลังจะโดนสกิล เช่นถ้า Hammerstorm ปาค้อนบินใส่คุณและคุณไวพอ คุณก็สามารถใช้สกิล ulti เคลื่อนที่ไปให้พ้นจากรัศมีการทำลายของค้อนได้ ถ้า Pyromancer ปล่อยสกิล 1 ของมันมาที่คุณ คุณก็สามารถใช้สกิล ulti พุ่งเข้าไปด้านหลังมันโดยไม่โดนความเสียหายจากสกิลนั้นได้ ถ้าลูกปืนจากสกิล ulti ของ Flint Beastwood กำลังลอยมาที่คุณ คุณก็สามารถใช้สกิล ulti หลบได้อีกเช่นกัน แต่การที่จะหลบสกิลได้สำเร็จก็ขึ้นอยู่กับจังหวะและการตัดสินใจที่รวดเร็วของคุณเหมือนกับการหลบสกิลด้วยสกิล Flash ของ Magebane (แต่มันเด็ดกว่าตรงที่มีไม่มี cooldown นี่ล่ะ)

แค่นั้นทำอะไรข้าไม่ได้หรอก!

- คุณสามารถใช้ไอเทมและสกิลต่างๆได้ในขณะที่คุณกำลังเคลื่อนที่ด้วยสกิล ulti ซึ่งหมายถึงคุณสามารถใช้สกิล 1 และ 2 ในขณะที่คุณกำลังบิน(ด้วยสกิล ulti)อยู่ได้ ใช้ Codex ก็ได้ ใช้ Frostfield Plate ก็ได้ และไอเทมกดใช้ทุกอย่างก็ใช้ได้ ซึ่งมันก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรมากมายหรอกนะเพราะแป๊บเดียวคุณก็บินถึงฝั่งแล้ว แต่เพราะมันเท่แค่นั้นเอง!

ผ่านมาพอดีเลยแอบ last-shot! (กรุณาอย่าเลียนแบบ)

- หากคุณมองเห็น rune Regeneration(สีเขียว) เกิดเมื่อไหร่ ให้คุณรีีบไปเก็บมันทันที ซึ่งมันจะทำให้คุณเป็นอิสระ(ไม่ใช่"อิสระ ฮาตะ"นะ)ด้วยสกิล ulti ตลอดระยะเวลา 30 วินาทีตราบใดที่คุณยังไม่ได้รับความเสียหาย ซึ่งก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรอีกแหละ ก็แค่มันเท่!(อีกละ)


- การใช้สกิล ulti ของคุณก็ถือเป็นการ"ใช้สกิล"(หมายความว่าหลังจากที่คุณเคลื่อนที่ด้วยสกิล ulti การโจมตีครั้งต่อไปของคุณก็จะมีผลของสกิล 3 ด้วย ไม่ว่าคุณจะเคลื่อนที่ด้วยระยะทางใกล้หรือไกลแค่ไหน) ดังนั้นหลังจากใช้สกิล ulti อย่าลืมโจมตีศัตรู 1 ครั้งก่อนที่จะใช้สกิลอื่นๆด้วย


- ฝันร้ายสำหรับฮีโร่ที่ใช้เน้นการใช้สกิลเป็นหลักคือการถูก silent หรือถูก stun ตัวคุณเองก็เช่นกัน ถ้าฝ่ายตรงข้ามมีฮีโร่ที่มีสกิล silent อย่าเข้าไปใกล้มันเด็ดขาด!


- จงจำเอาไว้ว่า Doctor Repulsor ที่ไม่มานา มีค่าเท่ากับครีปที่โจมตีระยะไกลเท่านั้น