[HoN Hero Guide] Arachna! แมงมุมขยุ้มบาทา!

Arachna

"ข้าก็เป็นเหมือนๆกับ Spider-Man... เพียงแต่ข้าปล่อยแมงมุมออกมาฆ่าเจ้าได้ด้วย!"

________________________________________________________________________________________ 

แนะนำฮีโร่

Arachna

Arachna เป็นฮีโร่สาย AGI ที่มีความสามารถในการสังหารเหยื่อสูงมาก ด้วยความสามารถในการ slow ที่สูงเข้าขั้นพระเจ้าของมันทำให้เหยื่อแทบจะก้าวขาไม่ออกจนต้องร้องว่า "โอ๊ยย~! ทามม~ มายย~ ขา~ มานน~ ม่ายย~ คา~ ย๊าบบบ~!" แล้วก็สิ้นใจไป นอกจากมันจะสามารถ slow ศัตรูได้อย่างหนักหน่วงแล้ว มันยังมีพลังโจมตีที่สูงไม่ใช่ย่อย ซึ่งจะทำให้เหยื่อตายไปก่อนที่ร้องประโยคข้างบนจบเสียด้วยซ้ำ แต่ความอำมหิตนี้ก็แลกมากับความสามารถในการเอาตัวรอดที่ต่ำต้อย ซึ่งถ้าศัตรูหมายหัวและเข้ามารุมสกรัมมันเมื่อไหร่ จากไอ้แมงมุมอำมหิตสุดโหดก็จะกลายเป็น Spider-Man ตอนอายุ 1 ขวบครึ่งที่กำลังนอนอมหัวแม่เท้าเลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ตามข้อด้อยตรงนี้ก็สามารถแก้ได้ด้วยไอเทมและทีมเวิร์คของทีมอยู่ดี ฉะนั้นแล้ว หากคุณมองหาฮีโร่ carry ที่มีความสามารถในการสังหารเหยื่อได้อย่างไม่ลำบากแล้วล่ะก็ จงเอา Arachna เข้าไปอยู่ในตัวเลือกของคุณซะ!

________________________________________________________________________________________ 

แนวทางการเล่น

Webbed Shot / Harden Carapace / Precision / Spider Sting

ฮีโร่ตัวนี้เหมาะที่จะฟาร์มที่เลนกลางมากกว่าเลนอื่นๆ เพราะมันต้องการเลเวลเพื่อที่จะให้ตัวเองแข็งแกร่งให้ได้เร็วที่สุด แต่ถ้าจะฟาร์มเลนอื่นก็ไม่ใช่ปัญหา ที่สำคัญพยายามหลีกเลี่ยงการอยู่ในเลนที่มีความกดดันสูง(เลนที่ฝ่ายตรงข้ามมีสกิลที่จะเล่นงานคุณได้ง่ายๆ) ในช่วงต้มเกมนี้ให้คุณมุ่งความสนใจไปที่การ last-hit ครีปให้ได้มากที่สุด ด้วยสกิล Precision(สกิล 3) จะทำให้คุณสังหารครีปได้ง่ายขึ้นจากพลังโจมตีที่เพิ่มเข้ามา ในระหว่างที่ยังไม่สามารถ last-hit ครีปได้(ครีปยังเหลือเลือดเยอะอยู่) ให้คุณคอยก่อกวนศัตรูด้วยการกดใช้สกิล Webbed Shot(สกิล 1) และเลือกเป้าไปที่ศัตรู ซึ่งด้วยพลังโจมตีที่สูงจะทำให้ศัตรูคันๆอยู่บ้าง และการ slow จากสกิล 1 ก็จะทำให้คุณโจมตีศัตรูได้อีกซักทีสองทีก่อนที่ศัตรูจะเดินไปไกลเกินไป ในการโจมตีก่อกวนนี้พยายามรักษาระยะห่างเอาไว้ด้วย(ไม่ใช่ทะเล่อทะล่าเข้าไปใกล้ๆแล้วยืนตีฟิ้วๆ นั่นจะทำให้คุณเป็นฝ่ายฟิ้วกลับบ้านไปเสียเอง) แต่ให้คุณให้น้ำหนักการ last-hit ครีปมากกว่าการโจมตีก่อกวน ในช่วงแรกนี้คุณอาจจะยังไม่อัพสกิล Harden Carapace(สกิล 2) ก็ได้หากฝ่ายตรงข้ามไม่มีสกิลประเภท slow หรือล็อคขา ซึ่งให้คุณเอาแต้มสกิลไปอัพสกิล 1 และสกิล 3 ให้เต็มก่อน(จะอัพอันไหนนำก็ได้) แต่ถ้าศัตรูมีสกิลดังกล่าว การอัพสกิล 2 ไว้ 1 เลเวลจะช่วยให้คุณสามารถใช้มันเพื่อแก้สถานะ slow หรือล็อคขาได้* เมื่อคุณมีเลเวล 6 พร้อมกับสกิล Spider Sting(สกิล ulti) คุณก็สามารถออกล่าเหยื่อได้ทันที ด้วยความสามารถในการ slow ของสกิล 1 และสกิล ulti คุณจะสามารถฆ่าเหยื่อได้อย่างไม่ยากเย็น และเหยื่อแทบจะไม่มีโอกาสหลุดมือคุณไปได้เลย(ก่อนการโจมตีอย่าลืมคลิกขวาที่สกิล 1 เพื่อเปิดใช้ auto-skill ด้วย) ในการล่านี้คุณสามารถไปแจมเลนอื่นๆเพื่อ gank และรุมเป้าหมายพร้อมกับเพื่อนร่วมทีมที่อยู่ในเลนนั้น และดันครีปเพื่อทำลายป้อมหลังจากที่เป้าหมายตายลง หรือคุณอาจจะโชว์เดี่ยวก็ได้ ถ้าคุณอยากโชว์เดี่ยว ให้คุณมองหาเหยื่อที่บางที่สุดในขณะนั้น ยิ่งไม่มีสกิล stun หรือสกิลที่รุนแรงได้ยิ่งดี และยิ่งเป็นฮีโร่โจมตีระยะใกล้ยิ่งดีเข้าไปใหญ่ จากนั้นก็เข้าไปจัดการเป้าหมายด้วยสกิล ulti และตามด้วยการโจมตีจากสกิล 1 ซึ่งถ้าเหยื่อที่คุณเลือกเป็นฮีโร่โจมตีระยะใกล้และไม่มีสกิล stun โอกาสที่คุณจะโดนสวนกลับแทบจะไม่มีเลย เพราะถึงเหยื่อคิดจะสู้กับคุณ กว่าจะเดินมาถึงตัวคุณได้ก็บาดเจ็บสาหัสแล้ว(เพราะโดน slow อย่างหนัก) ตรงกันข้าม หากเหยื่อตัวนั้นเป็นฮีโร่โจมตีระยะไกลหรือมีสกิล stun หรือสกิลที่มีความรุนแรง โอกาสที่คุณจะโดนสวนกลับก็จะมีสูงขึ้น(แต่ถ้า"รู้ว่าเสี่ยงแต่คงต้องขอลอง~"ก็เรื่องของคุณ) ตัวอย่างเช่นถ้าคุณจะไปล่า Witch Slayer โอกาสที่เหยื่อจะหือกับคุณก็มีสูง คุณอาจจะเป็นฝ่ายเดินเข้าไปกินลูกปืนจากสกิล ulti ของ Witch Slayer แล้วตายเสียเอง ในช่วงที่ยังไม่มีจังหวะ gank ให้คุณใช้เวลาไปกับการฟาร์มในเลนที่ปลอดภัยเพื่อให้ได้มาซึ่งไอเทม พอถึงช่วงท้ายเกม หากคุณมีไอเทมดีๆคุณจะเป็นตัว carry ที่ทำ DPS ได้โหดเอาเรื่อง แต่ถึงอย่างนั้นคุณก็ยังเป็นฮีโร่ที่เปราะบางและพลังโจมตีของคุณก็สู้พวก hard carry ไม่ได้(เช่น Predator, Chronos) ในการปะทะหมู่คุณจึงควรใช้ความสามารถในการ slow จากสกิลที่คุณมีอยู่ให้เป็นประโยชน์ โฟกัสไปที่ฮีโร่ carry ของฝ่ายตรงข้ามเพื่อให้มันโจมตีได้ยากลำบากขึ้น(ผลจากสกิล 1 จะทำให้ทั้งเดินช้าลงและโจมตีช้าลง) ซึ่งจะทำให้เพื่อนร่วมทีมของคุณไม่โดนฮีโร่ carry ของฝ่ายตรงข้ามตบตายเอาง่ายๆ และในช่วงท้ายเกมนี้สกิล 2 จะเป็นมากกว่าสกิลที่ใช้แก้ debuff ธรรมดา เพราะมันสามารถใช้ลดความเสียหายทางเวทย์มนต์ได้ถึง 45% เลยทีเดียว(ที่สกิลเลเวล 4) ดังนั้นอย่าลืมใช้มันในจังหวะชุลมุนหรือในจังหวะที่ศัตรูกำลังกระหน่ำสกิลมาที่คุณด้วย

*สกิล 2 สามารถ"แก้" debuff ที่กำลังแสดงผลติดตัวคุณอยู่ แต่ไม่สามารถ"ป้องกัน" debuff ได้

(ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณโดนพิษและ slow จากสกิล 1 ของ Slither คุณสามารถกดใช้สกิล 2 เพื่อแก้สถานะดังกล่าวได้ แต่ถ้าคุณกดใช้สกิล 2 ก่อน และ Slither ใช้สกิล 1 ของมันกับคุณในขณะที่สกิล 2 กำลังแสดงผล คุณจะยังคงได้รับความเสียหายต่อเนื่องจากพิษและถูก slow จากสกิลของ Slither อยู่ดี)

________________________________________________________________________________________ 

แนวทางการออกไอเทม

ดังที่กล่าวไปในข้างต้นว่าฮีโร่ตัวนี้เป็นฮีโร่ carry ไอเทมหลักๆจึงเป็นไอเทมเพิ่มพลังโจมตี แต่หากจะออกไอเทมที่แสดงผล Attack Modifier มันจะไปซ้อนทับผลจากสกิล 1 ซึ่งคุณต้องเลือกเอาระหว่างการโจมตีที่ slow ศัตรูอย่างหนักหน่วง หรือการโจมตีที่จะแสดง Attack Modifier ของไอเทม ดังนั้นคิดให้ดีๆก่อนที่จะออกไอเทมเหล่านั้น

**นี่เป็นเพียง"แนวทาง"เท่านั้น**

- คุณอาจจะออก Steamboots เพื่อให้คุณทำ DPS ได้สูงสุดจากการโจมตี

- คุณอาจจะออก Assassin's Shround เพื่อใช้ลอบสังหารเหยื่อแบบไม่ให้ได้ตั้งตัว และอาจต่อยอดไปสู่ไอเทม Genjuro

- คุณอาจจะออก Geometer's Bane เพื่อหลอกล่อศัตรูให้มึนจนไม่กล้าใช้สกิลกับคุณ

- คุณอาจจะออก Wingbow, Savage Mace, Riftshards ให้ทุกการโจมตีของคุณต้องทำให้ศัตรูกระอักเลือด
- คุณอาจจะออก Shrunken Head หากฝ่ายตรงข้ามมีสกิล disable มากเกินไป

- คุณอาจจะออก Symbol of Rage ให้คุณยืนชนกับศัตรูได้นานขึ้น

- คุณอาจจะออกอะไรก็ได้ เพราะทั้งหมดนั้น ขึ้นอยู่กับคุณ!

________________________________________________________________________________________ 

Tips

- สกิล Harden Carapace(สกิล 2) เป็นสกิลที่มีประโยชน์มากในแง่ของการเอาตัวรอดจากความสามารถในการลบ debuff ของมัน และมันยังใช้ลดความเสียกายทางเวทย์มนต์ได้อย่างมหาศาล มันสามารถลบ debuff ได้เกือบทุกชนิดทั้ง slow, ล็อคขา, ตาบอด(ulti ของ The Dark Lady), พิษ เป็นต้น แต่ไม่สามารถลบ debuff ที่สร้างความเสียหายจากสกิลประเภท Superior Magic ได้(เช่นสกิล ulti ของ Blood Hunter, สกิล ulti ของ Slither เป็นต้น)

ตัวอย่างจังหวะในการใช้สกิล 2

ตอนนี้คุณกำลังฟาร์มในเลนอย่างสงบสุข คุณมีไอเทม Assassin's Shround ไว้ในมือเพื่อใช้หายตัวหลบหนีในยามฉุกเฉิน ศัตรูเห็นดังนั้นจึงจ้าง Pestilence มาเพื่อกำจัดคุณโดยเฉพาะ ในขณะที่คุณกำลังฆ่าครีปอย่างสนุกสนาน ฝูงแมลงวันบินพุ่งเข้ามาหาคุณพร้อมด้วยฮีโร่ศัตรูอีกมากหน้าหลายตา ฝ่ายตรงข้ามคิดว่าคุณหนีไม่พ้นแน่แล้วจึงแสยะยิ้มออกมาด้วยความโอหัง ทันใดนั้นคุณได้กดใช้สกิล 2 เพื่อปัดแมลงวันที่ตอมคุณอยู่ทิ้ง และใช้ไอเทม Assassin's Shround หายตัวหนีไปอย่างหน้าตาเฉย ฝ่ายตรงข้ามจึงได้แต่ทำหน้าเซ็งและจ้องไปที่ Pestilence จากนั้นก็รุมกระทืบมันแทน...


- สกิล Precision(สกิล 3) มีความสามารถ True Strike ที่สกิลเลเวล 4(สามารถโจมตีศัตรูที่มี evasion ได้ 100% โดยไม่ติด miss ความสามารถนี้ได้มากจากไอเทม Snake Bracelet และ Wingbow และมีอยู่ในสกิลของฮีโร่บางตัว) ดังนั้นถึงแม้คุณจะโดน Night Hound เปิดหมอกด้วยสกิล 1 ของมันก็อย่าไปกลัว! ยืนตีแลกกับมันไปเลยย!!

แลกกันไปเลยย!!

- สกิล Spider Sting(สกิล ulti) จะทำให้คุณสามารถมองเห็นเป้าหมายได้แม้เป้าหมายจะหายตัวอยู่(ถ้าคุณใช้มันกับศัตรูก่อนที่มันจะหายตัว) ซึ่งจะทำให้คุณล่าฮีโร่ที่มีสกิลหายตัวของฝ่ายตรงข้ามได้อย่างสบายๆ(เช่น Scout, The Madman เป็นต้น) โดยการใช้สกิล ulti ในขณะที่ศัตรูไม่รู้ตัวเพื่อสกัดการหลบหนีด้วยการหายตัว (แต่ถ้าคุณวิ่งเข้าไปให้ศัตรูเห็น มันก็หายตัวไปก่อนที่คุณจะทันได้ใช้สกิล ulti ล่ะนะ)