14/4/55

[HoN Hero Guide] Behemoth! วัวเดือดเขย่าโลกาสะท้านปฐพี!

Behemoth
"ลองดูซิว่าเจ้าจะทนรับแผ่นดินไหวขนาดหนึ่งล้านริกเตอร์ของข้าไหวรึเปล่า!"

________________________________________________________________________________________


แนะนำฮีโร่


Behemoth
Behemoth เป็นหนึ่งในฮีโร่ที่มีความสามารถในการเปิดจังหวะการปะทะได้ยอดเยี่ยมและทรงพลังที่สุด และยังเป็นตัวอันตรายอย่างยิ่งยวด เพราะ"ทุกสกิล"ของมันสามารถทำให้ศัตรูติด stun ได้! และยังมีความสามารถอันเป็นเอกลักษณ์นั่นก็คือการ"ปิดทางเดิน"ของศัตรู(ของพวกเดียวกันด้วยแหละ) นั่นทำให้มันเป็น ganker สุดแสบชนิดที่ว่าหากใครเจอมันปิดทางหนีขึ้นมาล่ะก็อย่าหวังว่าจะรอด(ถ้าไปปิดทางหนีพวกเดียวกัน มันก็ไม่รอดเหมือนกัน) และด้วยสกิลเปิดจังหวะสุดประทับใจของมันจะทำให้ทีมของคุณต้องฉีกยิ้มจนปากฉีกแทบจะทะลุไปถึงหูเมื่อเห็นฝ่ายตรงข้ามกำลังเดินจูงมือกันมาเป็นกลุ่มแต่ไกลๆ และสกิลของมันยังทรงพลังถึงขั้นที่ว่า หากฝ่ายตรงข้ามพิมพ์คำว่า "all" เมื่อไหร่ คุณสามารถเปลี่ยนมันให้กลายเป็นคำว่า "genocide" ได้ทันที!
________________________________________________________________________________________

แนวทางการเล่นฮีโร่


Fissure / Enrage / Heavyweight / Shockwave
ในการอยู่เลน แนะนำให้คุณอยู่กับฮีโร่โจมตีระยะไกลที่เลนข้าง(ยิ่งฮีโร่ตัวนั้นมี DPS สูงๆยิ่งดี) เพราะจะทำให้คุณมีโอกาสฆ่าเป้าหมายได้สูง ขณะที่อยู่ในเลน พยายาม last-hit ครีปให้ได้มากที่สุด(แต่ถ้าเพื่อนร่วมเลนเป็นตัว carry ก็แบ่งๆกันบ้าง)เพราะคุณจำเป็นต้องเก็บเงินให้เร็วที่สุดเพื่อนำไปออกไอเทมหลักให้เร็วที่สุด และในระหว่างการฟาร์มนั้น ให้คุณจับตาดูการเคลื่อนไหวของฮีโร่ที่นิ่มๆของฝ่ายตรงข้ามในเลนนั้น คอยหามุมดีๆที่จะสามารถใช้สกิล Fissure(สกิล 1) ปิดทางศัตรูได้*(มุมดีๆที่ว่านี้หมายถึงจุดที่คุณจะใช้สกิล 1 ไปแล้ว ศัตรูจะไม่สามารถเดินหนีไปได้ นอกจากจะต้องย้อนมาในทางที่คุณอยู่ ซึ่งมักจะเป็นจุดที่สิ่งกีดขวางจากสกิล 1 ของคุณจะไปบรรจบกับต้นไม้่หรือหน้าผา) รอจังหวะที่ศัตรูอยู่ห่างกัน(หากมี 2 ตัว)แล้วจัดการซัดสกิล 1 ไปปิดทางเป้าหมายและเข้าจู่โจมทันที! ถ้าคุณสามารถปิดทางหนีศัตรูได้โดยสมบูรณ์แบบ และฝ่ายตรงข้ามไม่มีสกิลหยุดหรือสกิลหนี(สกิลหายตัว, ย้ายตำแหน่ง หรือกระโดด)แล้วล่ะก็ โอกาสที่คุณกับเพื่อนร่วมเลนจะฆ่าเป้าหมายได้ก็แทบจะเป็น 100% โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าในจังหวะที่คุณใช้สกิล 1 ปิดทางศัตรูเป็นจังหวะที่ครีปของฝั่งตรงข้ามหมดลงพอดี(และครีปฝั่งของเรายังมีอยู่เยอะ) ศัตรูที่ถูกปิดทางอยู่นั้นจะไม่สามารถเดินหนีออกมาได้เลย(เพราะถูกครีปบัง) หนำซ้ำยังจะโดนครีปโจมตีอีก ทำให้คุณสามารถสร้างความเสียหายได้มากกว่าปกติ ซึ่งนั่นก็จะทำให้โอกาสที่คุณจะฆ่าเป้าหมายได้มีสูงขึ้นไปอีก เหตุผลที่ให้คุณรอจังหวะที่ศัตรูอยู่ห่างกัน(หากมี 2 ตัว)ก่อนจะใช้สกิล 1 เพราะเมื่อคุณใช้สกิล 1 ไปปิดทางเป้าหมาย ศัตรูที่เหลืออีกตัวจะไม่สามารถช่วยเหลือตัวที่ถูกปิดทางอยู่ได้ซึ่งจะทำให้คุณฆ่าเป้าหมายได้ง่ายขึ้น ในขณะที่สิ่งกีดขวางจากสกิล 1 กำลังจะหมดลง(และเป้าหมายยังไม่ตาย) ให้คุณใช้สกิล Enrage(สกิล 2) เพื่อทำความเสียหายและ stun เป้าหมายจากผลจากสกิล Heavyweight(สกิล 3) (สกิล 3 จะแสดงผลรอบๆตัวคุณในขณะที่ใช้สกิลใดๆ ดังนั้นคุณต้องอยู่ใกล้ตัวเป้าหมายด้วยในตอนใช้สกิล 2 เป้าหมายจึงจะโดนผลของสกิล)แล้วโจมตีศัตรูไปอีกที ด้วยระยะเวลาในการปิดทางถึง 6 วินาที(ที่สกิลเลเวล 1) และความเสียหายจากสกิลและการโจมตีทั้งของคุณและของเพื่อนร่วมเลน(อาจรวมถึงของครีป) เป้าหมายที่คุณเล็งไว้ก็น่าจะตายได้แล้ว(หรือมันเป็น"คนอึดตายยาก"!?) ข้อควรระวังของการใช้สกิล 1 คือมันเป็นสกิลที่ใช้มานา่ค่อนข้างมาก ดังนั้นถ้าคุณไม่มีไอเทมฟื้นฟูมานา อย่าใช้มันเพื่อก่อกวน เก็บมันไว้ใช้ปิดทางศัตรูในจังหวะที่คุณคิดว่าฆ่าได้แน่ๆหรือเก็บไว้ใช้เพื่อเอาตัวรอดในสถานการณ์ฉุกเฉินดีกว่า จนกว่าที่คุณจะได้ไอเทมหลักที่สำคัญที่สุดของคุณคือ"Portal Key" ให้คุณฟาร์มในเลนไปเรื่อยๆ(ระวังโดน gank ด้วย ward ช่วยคุณได้) และหาจังหวะ teleport ไป gank เลนอื่นๆหากคุณคิดว่าสามารถ gank สำเร็จแน่ๆ(ไม่อย่างนั้นจะเสียเวลาฟาร์มเลน) ในการ gank หน้าที่ของคุณคือ"ปิดทางรอด"ของเป้าหมายด้วยสกิล 1 เหมือนกับในช่วงแรก เมื่อคุณได้ Portal Key มาแล้วคุณจะเป็นตัวเปิดจังหวะการปะทะที่สมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่โลกเคยมีมา และมันจะทำให้เพื่อนร่วมทีมของคุณเบาแรงลงไปกว่าครึ่งหรือมากกว่าในการปะทะนั้นด้วยสกิล Shockwave(สกิล ulti) ของคุณ ในการเปิดการปะทะด้วยไอเทม Portal Key ให้คุณอยู่ในแนวหลังของทีมไว้ อย่าให้ศัตรูเห็นคุณ และระวังศัตรูจะอ้อมหลังมาเก็บคุณเป็นคนแรก(ward ช่วยคุณได้อีกเช่นกัน) รอจังหวะที่ฝ่ายตรงข้ามอยู่ติดกันเป็นกลุ่ม(มากกว่า 3 คนขึ้นไป)และอยู่ใกล้ฝูงครีป จากนั้นใช้ Portal Key โผล่เข้าไปกลางวงของฝ่ายตรงข้าม(ทั้งครีปทั้งคน)แล้วจัดการเขย่าโลกด้วยสกิล ulti ของคุณ! ยิ่งมีจำนวนยูนิตของฝ่ายตรงข้ามมากเท่าไหร่ในตอนที่คุณใช้สกิล ulti ความเสียหายที่คุณสร้างก็จะยิ่งมากขึ้น ทันทีที่ใช้สกิล ulti ก็ตามด้วยสกิล 1 และ 2 ตามลำดับ หากคุณสามารถใช้สกิล ulti กับครีปเต็มฝูงและฮีโร่ของฝ่ายตรงข้ามครบ 5 ตัว คุณจะสามารถกระชาก HP ของศัตรูทุกตัวไปได้มากกว่าครึ่งหลอดตั้งแต่พวกเขายังไม่ทันได้กระดิกตัวเลยด้วยซ้ำ(เพราะติด stun จากสกิลทั้งหลายของคุณอยู่) และคุณยังซ้ำเติมความพินาศของศัตรูได้ด้วยสกิล 1 และ 2 อีกต่างหาก จะเห็นได้ว่าด้วยไอเทม Portal Key ชิ้นเดียวจะทำให้ทีมของคุณเป็นฝ่ายกุมชัยชนะไว้ได้โดยไม่ต้องพึ่งปาฏิหาริย์ใดๆ สรุปแล้วสิ่งที่คุณจะต้องทำเมื่อเล่นฮีโร่ตัวนี้คือ หนึ่ง เก็บเงินเพื่อ Portal Key และสอง จบเกมด้วย Portal Key...


*สกิล Fissure(สกิล 1) สามารถสร้างสิ่งกีดขวางขึ้นมากั้นทางเดินของยูนิตได้เป็นแนวยาวระยะ 1200 หน่วยจากตำแหน่้งที่คุณอยู่ โดยสิ่งกีดขวางนี้จะอยู่ได้นาน 6.5/7/7.5/8 วินาที หากคุณหาตำแหน่งใช้มันปิดทางศัตรูได้ดีๆแล้ว มันจะมีประสิทธิภาพมากกว่าสกิล stun ที่มีระยะเวลาเพียง 1 ถึง 2 วินาทีเสียอีก อย่าลืมว่าสกิลนี้สามารถสร้างความเสียหายและ stun ศัตรูด้วย ในการใช้ให้คุณใช้ให้มันในตำแหน่งที่"เฉียด"ตัวศัตรู เพราะถ้าคุณใช้มันเพื่อปิดทางเพียงอย่างเดียวแต่เป้าหมายไม่โดนตัวสกิลก็เท่ากับว่าคุณขาดทุน
________________________________________________________________________________________


แนวทางการออกไอเทม


จากข้างบนจะเห็นได้ว่าไอเทม Portal Key เปรียบเสมือนชีวิตของคุณ แต่อย่าลืมว่าคุณเป็นฮีโร่ที่ต้องพึ่งการใช้สกิลเป็นหลัก ดังนั้นไอเทมที่ช่วยเพิ่ม max มานาและอัตราการฟื้นฟูมานาจึงเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน


**นี่เป็นเพียง"แนวทาง"เท่านั้น**
- คุณอาจจะออก Strider, Ghost Marchers เพื่อให้คุณวิ่งไปมาระหว่างเลนเพื่อ gank ได้อย่างฉับไว
- คุณ"ต้อง"ออก Portal Key เพื่อให้คุณสามารถเปิดจังหวะการปะทะได้อย่างยิ่งใหญ่
- คุณอาจจะออก Bottle, Ring of Sorcery, Sacrificial Stone เพื่อให้คุณมีมานาเพียงพอสำหรับการใช้สกิลเมื่อยามจำเป็น
- คุณอาจจะออก Behemoth's Heart เพื่อรับบทเป็นตัว tank หลังจากที่เสร็จสิ้นภารกิจในการเปิดการปะทะ
- คุณอาจจะออก Frostfield Plate เพื่อเปลี่ยนโลกให้เข้าสู่ยุคน้ำแข็งหลังจากการเปิดการปะทะอันยิ่งใหญ่
- คุณอาจจะออก Spellshards, Restoration Stone เพื่อทำลายล้างโลกด้วยสกิลทั้งหมดที่คุณมีอยู่
- คุณอาจจะออกอะไรก็ได้ เพราะทั้งหมดนั้น ขึ้นอยู่กับคุณ!
________________________________________________________________________________________


Tips


- การอัพสกิลแนะนำให้อัพสกิล Fissure(สกิล 1) เป็นหลักเพื่อให้ปิดทางได้ทางขึ้นและสร้างความเสียหายได้มากขึ้น ตามด้วยสกิล Heavyweight(สกิล 3) ส่วนสกิล Enrage(สกิล 2) ให้อัพไว้อย่างน้อย 1 เลเวลเพื่อใช้ในการ stun ศัตรูจากผลของสกิล 2 โดยสกิล 2 นี้คุณอาจจะไปอัพให้เต็มอีกทีตอนเลเวล 23-25 เลยก็ได้หากคุณคิดว่าการนำแต้มสกิลไปอัพ stat ที่จะช่วยเพิ่ม HP และ MP มีประโยชน์กว่าการนำไปอัพสกิล 2 ในเกมนั้น


- สกิล 1 เป็นสกิลอันเป็นเอกลักษณ์ของฮีโร่ตัวนี้ และเป็นหนึ่งในไม่กี่สกิลใน HoN ที่สามารถสร้างสิ่งกีดขวางขึ้นมากั้นทางเดินได้ ด้วยสกิลนี้คุณสามารถใช้มันเพื่อปิดทางหนีของศัตรู(ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว) ใช้มันเพื่อกั้นทางไม่ให้ศัตรูไล่ตามเพื่อนร่วมทีมหรือตัวคุณเองได้ ใช้มันเพื่อทำคอมโบกับสกิลของฮีโร่ตัวอื่นๆ หรือแม้แต่ใช้มันเพื่อฆ่าเพื่อนร่วมทีมของคุณเอง(เย้~ เห้ย ไม่ใช่!) ใช่แล้ว... มันสามารถใช้ฆ่าเพื่อนร่วมทีมของคุณได้หากคุณไปปิดทางเดินของเพื่อนร่วมทีมของคุณที่กำลังถูกไล่ล่าเสียเอง แม้คุณอาจจะหวังดีที่ใช้สกิลไปเพื่อ stun ให้กับศัตรูที่กำลังไล่ล่าเขา แต่สุดท้ายเขาก็ต้องตายเพราะการปิดทางของคุณอยู่ดี ดังนั้นก่อนที่จะใช้ให้ดูตำแหน่งดีๆด้วย หากคุณจะใช้สกิล 1 เพื่อช่วยเพื่อนร่วมทีม ให้คุณรอจังหวะที่เพื่อนร่วมทีมคนนั้นและศัตรูอยู่ห่างกันพอสมควรแล้วจึงค่อยใช้เพื่อ stun และปิดทาง แต่ถ้าไม่มีโอกาสนั้น(ถ้าศัตรูไล่ตามในระยะกระชั้นชิด) ให้เซฟที่สุดก็ให้คุณใช้สกิลไปตรงๆที่ศัตรูเลย อย่างน้อยหวังผล stun อย่างเดียวก็ยังดี


- สกิล 1 มีระยะสกิลที่ไกลมาก(1200 หน่วย) และสามารถใช้ข้ามต้นไม้หรือหน้าผาได้ด้วย ในบางสถานการณ์คุณก็สามารถใช้มันเพื่อปิดทางหรือทำความเสียหายจากระยะไกลได้โดยไม่ต้องเข้าไปเสี่ยงกลางฝูงชน
จะไปไหนจ๊ะน้อง!


- ข้อเสียเพียงอย่าเดียวของสกิล 1 คือมันใช้เวลาร่ายนานพอสมควรกว่าที่สกิลจะแสดงผล ดังนั้นในการใช้ควรกะตำแหน่งเผื่อเวลาร่ายสกิลเอาไว้ด้วย(สกิลนี้ใช้เวลาร่าย 1.2 วินาที) 


- ในบางเกม ฝ่ายตรงข้ามอาจรู้ทันคุณด้วยการไม่อยู่ใกล้ครีปและไม่อยู่ติดกันเป็นกลุ่มเพื่อป้องกันการเปิดการปะทะด้วยสกิล Shockwave(สกิล ulti) ของคุณ ทางแก้คือให้คุณส่งตัว tank ของคุณเข้าไปเปิดการปะทะเสียเลย หรือในกรณีที่คุณไม่มีตัว tank อาจเป็นตัวไหนก็ได้(แต่ขออย่าเป็นตัว carry) ในการเปิดการปะทะก็ให้"ผู้ที่ถูกเลือก"นั้นเข้าไปตีศัตรูซักตัวหนึ่งแบบหน้าด้านๆเลย ซึ่งแน่นอนว่าฝ่ายตรงข้ามจะต้องเข้ามารุมสกรัมตัว want teen ที่ถูกส่งไปแน่ ซึ่งในจังหวะที่หน่วยกล้าตายของคุณถูกรุมกระทืบ ศัตรูก็จะล้อมวงเข้ามาใกล้หน่วยกล้าตายของคุณเพื่อตื๊บมัน และนั่นก็คือจังหวะสำหรับการใช้สกิล ulti ของคุณ หรือถ้าไม่ใช้วิธี"เปิดการปะทะแบบหน้าด้าน"นี้ ก็สามารถใช้วิธี"ล่อเหยื่อ"ได้ โดยการให้ตัว tank หรือตัวอะไรซักตัวที่ไม่ใช่ตัว carry ซักตัวสองตัวทำเป็นตีครีปเก็บเงินอยู่แบบสบายๆ และคนที่เหลือก็ให้ซุ่มไว้ ถ้าฝ่ายตรงข้ามเห็นเหยื่อตัวสองตัวนี้แล้วเกิดมีอาการ want kill กำเริบแล้วพากันพุ่งมาจู่โจมหมายจะเด็ดหัวไอ้คนสองคนนั้น คุณก็จัดการแว๊บเข้าไปจ๊ะเอ๋พวกมันด้วย Portal Key แล้วกระทืบด้วยสกิล ulti ได้เลย!
เขย่าโลก!


4 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ23 เมษายน 2555 เวลา 10:57

    เป็น1ในฮีโร่ที่ผมชอบเล่นมากหลางจากใช้สกิล1ปิดทางพร้อมประโยคเด็จที่ว่า "เส้นทางนี้ชำรุดกรุณาใช้ทางอื่นครับ" ทำให้สร้างเสียงหัวเราะในทีมและเป็นเปิดที่ดีด้วยละครับ ขอบคุณ :D

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ23 เมษายน 2555 เวลา 21:42

    ผมขอ ถามไรนิด เวลาที่เรา ยังไม่มี PK นี้ครับ ผม เข้าไป สกิว 1 จากนั้นกว่าจะไปกด สกิวที่ 2 นี้ก็โดนสวนตายตลอด บอกคอมโบก่อนไม่มี PK ทีคัรบ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ตอบคุณ... คุณไรหว่า ไม่มีชื่อ 55

      ในช่วงแรกที่ยังไม่มี PK ให้เราคอยใช้สกิล 1 จากระยะไกลในการ stun และปิดทางศัตรูให้กับเพื่อนร่วมทีมไปก่อนนะครับ เพราะการเข้าไปอยู่กลางวงในการปะทะที่มีความเสี่ยงอาจจะทำให้คุณตายได้ เพราะอย่าลืมว่าคุณต้องเก็บเงินซื้อ PK ดังนั้นคอยเก็บเงินจากการ assist (หรืออาจจะ kill)ไปก่อน และหาเลนดีๆฟาร์มด้วยในตอนที่ไม่มีโอกาส gank ซึ่งในการ gank คุณไม่จำเป็นต้องวิ่งไปวิ่งมาเพื่อ gank ให้คุณพก Homecoming Stone ไว้และวาร์ปไปในเลนอื่นเมื่อเห็นจังหวะ หรืออาจจะวาร์ปไปในตอนที่เกิดการปะทะแล้วเพื่อตามไปสมทบ(แต่อย่าช้าไป) ส่วนการใช้สกิล 2 เพื่อ stun นั้นแนะนำว่าถ้าศัตรูไม่ได้อยู่คนเดียว อย่าเดินเข้าไปใช้สกิล 2 ตรงๆครับ เพราะโอกาสที่คุณจะโดนสวนและถูกฆ่าตายมีสูงมาก และอย่าลืมว่าการใช้สกิล 2 เพื่อ stun ศัตรูจากผลของสกิล 3 นั้นมันไม่ได้มีระยะเวลา stun นานมาก(เพียงแค่ 1.5 วินาทีเท่านั้นเองที่สกิลเลเวล 4) ดังนั้นไม่คุ้มที่จะเสี่ยงหากศัตรูมีเป็นจำนวนมากและคุณยังไม่มีไอเทมที่จะ tank ได้ครับ และอย่าเดินเข้าไปใช้สกิล 2 กับศัตรูหากศัตรูไม่ได้ถูกปิดทางหรือโดนหยุดด้วยสกิลอื่นๆ เพราะคุณจะเสียเวลาวิ่งไล่ และอาจจะเสี่ยงตายถ้าฝ่ายตรงข้ามวาร์ปลงมาช่วยเป้าหมายที่คุณเล็งไว้ คุณจะเดินเข้าไปใช้สกิล 2 ได้ก็ต่อเมื่อในการปะทะนั้นคุณเห็นว่าทีมของคุณเป็นฝ่ายได้เปรียบ(อาจจะมีจำนวนมากกว่า หรือเพื่อนร่วมทีมของคุณทำ DPS ได้สูงกว่าศัตรู) คุณจึงค่อยเดินเข้าไปประชิดตัวศัตรูและ stun ด้วยสกิล 2 จะปลอดภัยกว่าครับ

      ปล. ตอบวกไปวนมา ผมก็งงตัวเองเหมือนกัน
      ปล2. ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชม blog เล็กๆแห่งนี้ครับ ^ ^

      ลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ24 เมษายน 2555 เวลา 19:59

    ขอบคุณมาก ครับ Blog ดีๆๆๆ ขอบคุณสำหรับ เทคนิคนะครับ เดี่ยวผมจะไปลองทำตามครับ

    ปล. ขอเป็นกำลังใจให้ทำ Blog นี้ต่อไป เป็นแนวทางสำหรับ มือใหม่ อย่างผมได้เป็นอย่างดี ขอขอบคุณจากใจ

    ตอบลบ