8/5/55

[HoN Hero Guide] Draconis! มังกรเปลวอัคคีพิโรธ!

Draconis
"ดูเปลวไฟที่ลุกลามอยู่บนชุดเกราะและเนื้อหนังของเจ้าสิ... ช่างงามแท้เหลา!"

________________________________________________________________________________________

แนะนำฮีโร่ Draconis


Draconis
Draconis เป็นหนึ่งในฮีโร่สาย AGI ที่ร้อนแรงที่สุดใน Heroes of Newerth ด้วยความสามารถในการสร้างความเสียหายต่อเนื่อง(Damage Over Time:DOT(ไม่มี A))ของมัน ทำให้มันเป็นฮีโร่ที่จะสร้างความปั่นป่วนในการปะทะได้ดีเยี่ยมด้วยเปลวไฟบนสนามรบที่ลุกโชนที่ทำให้ศัตรูมอดไหม้ไปในเพลิงแห่งความพินาศ และอีกหนึ่งความสามารถที่ทำให้ Draconis โดดเด่นกว่าฮีโร่ carry ตัวไหนๆนั่นคือความสามารถที่จะทำให้มัน"โจมตีศัตรูทีเดียวได้พร้อมกันถึง 4 ตัว!" พร้อมทั้งเพิ่มความเร็วในการโจมตีอีกกว่า 50% อีกต่างหาก และนี่จะทำให้ Draconis เป็นสุดยอดฮีโร่ carry ที่สามารถทำ DPS ในการปะทะได้อย่างมหาศาล และจะผลาญศัตรูทุกตัวที่ขวางหน้าให้กลายเป็นเศษซากธุลีแห่งเถ้าถ่าน!
________________________________________________________________________________________

แนวทางการเล่น Draconis


Dragonflame / Blazing Flight / Fiery Barrage / Cataclysmic Assault
ในช่วงแรกนั้นคุณสามารถฟาร์มที่เลนใดก็ได้ การอยู่เลนกลางจะทำให้คุณสามารถกดดันศัตรูได้อย่างหนักหน่วง ในขณะที่การอยู่เลนข้างกับเพื่อนร่วมทีมจะทำให้คุณมีโอกาสที่จะเด็ดหัวศัตรูได้มากกว่า ในการฟาร์ม ให้คุณมุ่งความสนใจไปที่การ last-hit ครีปเพียงอย่างเดียวเพื่อไม่ให้ตำแหน่งการปะทะกันของครีปอยู่ไกลจากป้อมที่อยู่ใกล้ตัวคุณไปมากนักซึ่งจะทำให้คุณปลอดภัยในระดับหนึ่งจากการถูกดักตีหัวโดยศัตรู ให้คุณหมั่นสังเกต charge ของสกิล Fiery Barrage(สกิล 3) เอาไว้ด้วย ถ้ามันเหลือ 1 เมื่อไหร่ ให้คุณหาโอกาสโจมตีศัตรูในการโจมตีครั้งต่อไป ด้วยความเสียหายต่อเนื่องที่แสดงผลได้เป็นวงกว้าง(นิดหน่อย)จากผลของสกิล จะทำให้การฟาร์มของศัตรูที่คุณเผชิญหน้านั้นลำบากขึ้น และมันจะทำให้คุณกดดันศัตรูได้ระดับหนึ่งในช่วงนี้ เนื่องจากคุณเป็นตัว carry ที่ยังโจมตีได้ไม่รุนแรงนักในช่วงต้นเกม สกิล Dragonflame(สกิล 1) จึงเป็นสกิลที่คุณควรจะอัพเป็นสกิลหลัก ซึ่งนอกจากมันจะใช้สร้างความเสียหายตามปกติแล้ว ด้วยความสามารถในการ"ผลัก"และ"slow"ศัตรูยังทำให้มันเป็นสกิลที่ยอดเยี่ยมในการเปิดการปะทะและในการเอาตัวรอด ในการใช้สกิล 1 เพื่อเปิดการปะทะนั้น เนื่องจากสกิลนี้จะผลักศัตรูให้ห่างออกจากตัวคุณ การใช้สกิลซึ่งๆหน้าเพื่อเปิดการปะทะจึงไม่ใช่เรื่องดีแน่ เพราะศัตรูจะกระเด็นไปไกลกว่าเดิมซึ่งจะทำให้คุณและเพื่อนร่วมทีมไล่ตามมันได้ยากขึ้น ดังนั้นเพื่อให้คุณใช้ประโยชน์จากการผลักของสกิลนี้ให้ได้มากที่สุด ให้คุณหาโอกาสอ้อมไปข้ามหลังศัตรูโดยอย่าให้ศัตรูรู้ตัว และใช้สกิล 1 เพื่อเปิดการปะทะจากด้านหลัง ผลจากการผลักของสกิลจะทำให้ศัตรูอยู่ไกลจากป้อมของตัวเองมากขึ้น นั่นหมายถึงศัตรูจะต้องใช้เวลามากขึ้นในการหนี อีกทั้งยังมีผลจากการ slow ซึ่งทำให้ศัตรูหนีไปได้ยากขึ้นอีก และผลจากการผลักก็จะทำให้เพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆไม่ต้องเสียเวลาในการวิ่งไล่(เพราะคุณเสิร์ฟเหยื่อมาให้ถึงที่) เมื่อศัตรูวิ่งหนีมาถึงจุดที่คุณยืนอยู่แล้ว ให้คุณเปิดสกิล Blazing Flight(สกิล 2) จากนั้นวิ่งนำหน้าศัตรูไปในทิศทางที่มันกำลังวิ่งหนี คุณก็จะทำความเสียหายต่อเนื่องแก่ศัตรูได้อีกไม่น้อยจากผลของสกิล ในช่วงต้นเกมถึงกลางเกมนี้ พยายามหาเลนที่ปลอดภัยฟาร์มเพื่อให้ได้มาซึ่งไอเทม อย่าเสียเวลาวิ่งไปมาโดยไม่จำเป็น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะไป gank เลนอื่นๆไม่ได้ หากคุณเห็นโอกาสที่ทีมของคุณจะสามารถกำจัดเป้าหมายได้อย่างแน่นอน คุณก็สามารถไปเก็บเงินจากการ kill หรือ assist ด้วยการ teleport ไปร่วมการปะทะด้วย Homecoming Stone ได้เช่นกัน แต่ถ้าคุณเล่นดักซุ่มรอเหยื่อจนรากงอกเหมือนกับฮีโร่ ganker ตัวอื่นๆ โดยที่ไม่ได้ทั้งค่าประสบการณ์หรือเงินเลยในระหว่างนั้น คุณก็จะกลายเป็นฮีโร่ที่ไร้ประสิทธิภาพเมื่อเกมได้ดำเนินมาถึงในช่วงท้ายเกม เพราะอย่างที่บอกว่าคุณเป็นฮีโร่ carry แถมยังเป็น hard-carry อีกด้วย การมีไอเทมที่ดีให้ได้เร็วที่สุดจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งไอเทมที่เพิ่มความสามารถในการโจมตี ซึ่งจะทำให้คุณสามารถแสดงศักยภาพของฮีโร่ตัวนี้ได้อย่างเต็มที่ด้วยสกิล Cataclysmic Assault(สกิล ulti) และเนื่องจากเป็นตัว carry คุณจึงควรเซฟตัวเองไว้ให้ได้มากที่สุด และตายน้อยให้ที่สุด อย่าทำให้ตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงโดยไม่จำเป็น  เมื่อมาถึงจุดหนึ่งที่คุณมีไอเทมที่ดีไว้ในครอบครองแล้ว คุณจะพบว่า นี่คือหนึ่งในฮีโร่ที่สามารถสร้าง"ความเสียหายรวม"ในการปะทะได้มากกว่า 800 หน่วยต่อวินาที! และนั่นก็มากพอที่จะทำให้คุณได้ยินเสียง announcer ประกาศอย่างกึกก้องว่า "Genocide"!!

แนวทางการอัพสกิล Draconis


**คุณสามารถพลิกแพลงการอัพสกิลได้เป็นล้านวิธีซึ่งขึ้นอยู่กับรูปเกมและสไตล์การเล่นของคุณเอง และนี่ก็เป็นแค่เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น!**

แบบที่ 1
แบบที่ 2

แบบที่ 1 : เหมาะสำหรับรูปเกมทั่วๆไป ด้วยการอัพสกิล 3 เป็นสกิลรองจะทำให้คุณกดดันศัตรูได้มากขึ้นในช่วงต้นเกม และยังช่วยเพิ่ม DPS ที่คุณทำได้จากการโจมตีธรรมดารวมทั้งจากการใช้สกิล ulti ให้สูงขึ้นอีกเล็กน้อยด้วย

แบบที่ 2 : หากคุณต้องเผชิญหน้ากับฮีโร่ที่มีความสามารถในการ slow ได้อย่างต่อเนื่องหรือเป็นระยะเวลานานในช่วงต้นเกม(เช่น Arachna, Tremble, Armadon) การอัพสกิล 2 เป็นสกิลรองจะช่วยเพิ่มความสามารถในการเอาตัวรอดเมื่อคุณต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก(คือสถานการณ์ที่คุณโดน slow อย่างหนักหน่วงโดยฮีโร่เหล่านั้น)
________________________________________________________________________________________

แนวทางการออกไอเทม Draconis


เนื่องจากเป็นฮีโร่ carry ไอเทมที่สำคัญที่สุดสำหรับคุณคือไอเทมที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการโจมตี แต่ด้วยความสามารถในการโจมตีศัตรูได้มากกว่า 1 ตัว การออกไอเทมที่มีผลของ Attack Modifier ใดๆจึงสามารถส่งผลต่อการโจมตีที่เพิ่มขึ้นมาได้ และผลของไอเทมเหล่านั้นก็ยังส่งผลต่อผลลัพธ์ของการปะทะได้ไม่มากก็น้อย ดังนั้นอย่าลืมคำนึงถึงประโยชน์ที่ได้จากการออกไอเทมในลักษณะดังกล่าวด้วย นอกจากนี้ไอเทมที่ช่วยให้คุณยืนโจมตีศัตรูได้อย่างสบายๆโดยไม่ถูกขัดจังหวะในระหว่างที่ใช้สกิล ulti ก็จะทำให้คุณสามารถทำ DPS ได้อย่างเต็มที่ในการปะทะอีกด้วย

**นี่เป็นเพียง"แนวทาง"เท่านั้น**
- คุณอาจจะออก Steamboots เพื่อเร่งความเร็วในการโจมตีให้เต็มขั้น
- คุณอาจจะออก Assassin's Shroud เพื่อลอบเข้าข้างหลังศัตรูและเปิดการปะทะด้วยสกิล 1
- คุณอาจจะออก Null Stone, Shrunken Head เพื่อไม่ให้ใครสามารถหยุดการโจมตีที่น่าสะพรึ่งของคุณได้
- คุณอาจจะออก Frostwolf's Skull, Shield Breaker, Symbol of Rage เพื่อเสริมความสามารถในการโจมตีของคุณให้เหนือธรรมชาติ
- คุณอาจจะออก Geometer's Bane*, Wingbow, Riftshards เพื่อให้สร้าง DPS ให้เฉียด 1000 หน่วย!

*ร่างแยก/ร่างปลอมจาก Tablet of Illusion หรือ Geometer's Bane ของ Draconis สามารถแสดงผลของสกิล 3 ได้ด้วย
________________________________________________________________________________________

Draconis Tips


- นอกจากสกิล Dragonflame(สกิล 1) จะสามารถใช้เปิดการปะทะได้ดีแล้ว มันยังสามารถใช้ในการปะทะที่ฝ่ายตรงข้ามเป็นฝ่ายจู่โจมได้ด้วยเช่นกัน เพราะการผลักศัตรูไปข้างหลังพร้อมๆกับการ slow จะทำให้ศัตรูเข้าุถึงตัวคุณได้ลำบากขึ้น และกว่าจะหมดผล slow ศัตรูก็อาจกลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบไปเสียก่อนแล้ว
อย่าเข้ามาน้า~!! > <"

- ด้วยความสามารถในการ"ผลัก"ของสกิล 1 คุณจึงสามารถใช้มันคอมโบกับสกิลของฮีโร่ตัวอื่นๆในทีมของคุณได้อย่างดี ตัวอย่างเช่น ผลักศัตรูให้เข้าใกล้ Magmus ที่กำลังใช้สกิล ulti อยู่ ผลักศัตรูให้กระเด็นผ่านกำแพงไฟฟ้าจากสกิล ulti ของ Engineer ผลักศัตรูที่ไม่ได้ถูกหยุดเวลาจากสกิล ulti ของ Chronos ให้เข้าไปในห้วงเวลาที่ถูกหยุด เป็นต้น

- ถ้าคุณมีเพื่อนร่วมทีมเป็นฮีโร่ที่มีสกิลหยุดที่แสดงผลเป็นเส้นตรง(เช่นสกิล 1 ของ Magmus และ Witch Slayer)หรือแสดงผลบนพื้นที่(เช่นสกิล 2 ของ Pyromancer, สกิล 1 ของ Moraxus) การใช้สกิล 1 ผลักศัตรูออกไปอาจทำให้พวกเขาใช้สกิลหยุดเหล่านั้นพลาดเป้าได้ ดังนั้นหากคุณมีเพื่อนร่วมทีมเป็นฮีโร่ที่มีสกิลดังกล่าว อย่าใช้สกิล 1 ของคุณจนกว่าพวกเขาจะใช้สกิลหยุดนั้นไปแล้ว

- การ"ผลัก"จากสกิล 1 สามารถใช้ขัดจังหวะการใช้สกิล(ทั้งสกิลธรรมดาและสกิลร่ายค้าง) และการ teleport ของศัตรูได้เช่นกัน

- นอกจากสกิล Blazing Flight(สกิล 2) จะสามารถใช้สร้างความเสียหายแก่ศัตรูในการปะทะได้แล้ว ด้วยความเร็วในการเคลื่อนที่ที่เพิ่มขึ้น และความสามารถในการเดินทะลุยูนิต(Unit Walking) ก็ยังทำให้มันเป็นสกิลที่ใช้เอาตัวรอดได้ดีอีกด้วย และมันยังทำให้ศัตรูที่ไล่ล่าคุณได้รับความเสียหายอีกต่างหาก ซึ่งนั่นอาจทำให้เพื่อนร่วมทีมที่ตามมาช่วยคุณสามารถสังหารศัตรูได้ง่ายขึ้น

- เนื่องจากสกิล 2 เป็นสกิลที่มีผลเพียง 3 วินาที คุณจึงไม่ควรใช้มันเพื่อพุ่งเข้าไปกลางการปะทะที่มีศัตรูอยู่เป็นจำนวนมากเพื่อทำสนามรบให้ลุกเป็นไฟเหมือนที่ผมได้โม้เอาไว้ตอนแรก เพราะเมื่อคุณเข้าไปอยู่กลางฝูงชนแล้ว คุณก็จะไม่มีสกิล 2 ให้ใช้หนีออกมาได้อีก และการที่คุณเป็นฮีโร่โจมตีระยะไกลอีกทั้งยังเปราะบาง จึงไม่มีความจำเป็นเลยที่คุณจะต้องเข้าไปรับ_ีนของฝ่ายตรงข้าม ให้คุณใช้สกิล 2 เมื่อคุณตกเป็นเป้าหมายเพื่อรักษาระยะห่างกับศัตรู หรือใช้มันเมื่อคุณต้องวิ่งไล่ตามศัตรูเท่านั้น

- ทุกๆครั้งที่คุณใช้สกิลใดๆ สกิล Fiery Barrage(สกิล 3) จะมี charge เหลือ 1 เสมอ นั่นหมายความว่าการโจมตีครั้งต่อไปหลังจากที่คุณใช้สกิลใดๆจะมีผลของสกิล 3 ติดไปด้วยเสมอ คุณจึงสามารถใช้มันคอมโบกับสกิล 1 ได้เพื่อให้ศัตรูถูก slow มากขึ้น(การโจมตีด้วยผลของสกิล 3 จะทำให้ศัตรูที่อยู่ในพื้นที่ของการแสดงผลถูก slow อีก 10%) และหลังจากที่ใช้สกิลอื่นๆ(นอกจากสกิล 1)ก็อย่าลืมโจมตีศัตรูก่อนซัก 1 ครั้งเพื่อให้ศัตรูได้รับผลของการ slow นี้ด้วย

- หากคุณยังไม่มีไอเทม Shrunken Head ก่อนที่คุณจะใช้สกิล Cataclysmic Assault(สกิล ulti) ขอให้คุณแน่ใจว่าในการปะทะนั้นจะไม่มีศัตรูตัวใดที่จะสามารถใช้สกิลหยุดหยุดการโจมตีของคุณได้ เนื่องจากสกิลนี้มีระยะเวลาไม่นานเท่าไหร่นัก และมันยังเป็นสกิลสำคัญที่อาจส่งผลต่อผลลัพธ์ของการปะทะ การรีดประสิทธิภาพของสกิลนี้ให้ได้มากที่สุดจึงเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นในการปะทะหมู่ ให้คุณอยู่ในแนวหลังของทีมไว้ และโผล่ออกมาโจมตีด้วยสกิล ulti หลังจากที่ฮีโร่ของฝ่ายตรงข้ามใช้สกิลหยุดกับเพื่อนร่วมทีมของคุณไปหมดแล้ว(นี่คือกรณีที่คุณไม่มี Shrunken Head)
ให้ตัว tank รับสกิลไปก่อน แล้วค่อยโผล่มาสวน!

- การโจมตีที่เพิ่มขึ้นมาจากสกิล ulti ยังมีผลจากสกิล 3 ติดมาอีกด้วย และด้วยการแสดงผลร่วมกันของสกิล 3 และสกิล ulti นี้เองที่จะทำให้คุณสามารถปั่นป่วนศัตรููในการปะทะได้อย่างดีเยี่ยม!


1 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ9 พฤษภาคม 2555 เวลา 06:23

    เคย ได้ยินว่า ใครว่าตัวนี้นี้สามารถไว้แก้ทาง MK ได้ด้วยนะคัรบ

    ตอบลบ